วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

LEXUS GS ใหม่ เคาะราคาขายเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท



โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว เลกซัส ลุยตลาดรถหรู 2 รุ่น GS250 และ GS350 ชูจุดขายรูปลักษณ์ใหม่หมดจดทั้งคัน ผสานกับเทคโนโลยีทันสมัยที่มีมาให้อย่างครบครัน เปิดราคาแบบสบายกระเป๋า เริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี2554 ที่ผ่านมานั้น แบรนด์เลกซัส สามารถทำยอดขายได้ถึง 622 คัน เติบโต 185% เมื่อเทียบกันกับปี 2553  เชื่อว่าส่วนหนึ่งเพราะได้การตอบรับที่ดีจากรุ่น CT200h ประกอบกับคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของรถยนต์ในตระกูลLEXUS พร้อมด้วยมาตรฐานการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการขาย และการให้บริการหลังการขาย รวมทั้งความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ช่วยส่งเสริมให้ LEXUS ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่



LEXUS ได้พัฒนารถในรุ่น GS เจนเนอเรชั่นที่ 4 นี้ให้เป็น “The Grand Touring Sedan of Lexus” สปอร์ตซีดานสุดหรูที่ได้รับการพัฒนาให้มีความพิเศษเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันในทุกๆด้าน พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะอันเหนือชั้น ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสะท้อนปรัชญาการออกแบบ “L-finesse” ใหม่ของ LEXUS ที่มาพร้อมกับ Lexus Emotional Value มอบประสบการณ์การขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ให้ความรื่นรมย์ และความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดการเดินทาง


LEXUS GS ใหม่ ได้ถูกออกแบบให้สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ “Progressive Luxury” ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “L-finesse” ใหม่ มีความเป็นมิติมากขึ้นกว่าเดิม ผ่านเส้นสายของตัวถังที่ลื่นไหลไปตามหลักอากาสพลศาสตร์(Aero Dinamic) ด้วยค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทานต่ำ (0.26) ด้วยแนวหลังคาที่เรียวยาวขึ้น ทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขึ้นมาก ให้ความรู้สึกสะดวกสบายตลอดการเดินทาง การออกแบบแนวขอบประตูแบบ Sling shot ช่วยให้การเข้าออกห้องโดยสาร สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ภายใต้เส้นสายของตัวถัง แนวหลังคาที่ยาว รวมถึงชายล่างขอบประตู และ กันชน ทำให้ LEXUS GS ใหม่ ดูปราดเปรียว ทะมัดทะแมง และหนักแน่นขึ้น พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า

กระจังหน้าใหม่ แบบ Spindle Grille เอกลักษณ์แห่งดีไซน์ครั้งใหม่สำหรับเลกซัสซีดาน มาพร้อมกับไฟ Daytime Running Lights ทรง L-Shape สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ่งบอกถึงตัวตนของยนตร์กรรมระดับหรูจากตระกูลLEXUS พร้อมสร้างความพิเศษที่แตกต่าง ด้วยชุดแต่งพิเศษในรุ่น F- Sport เติมเต็มความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว เน้นความดุดันของรูปลักษณ์ภายนอก สะดุดทุก ๆ สายตาในยามขับขี่


ภายในห้องโดยสารได้ถูกออกแบบให่ทั้งหมดภายใต้ปรัชญา HMI (Human Machine Interface) ที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยการรังสรรค์เทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ขับขี่สะดวกสบายมากที่สุด
โดยการแบ่งโซนควบคุม (Operation Zone) และ โซนแสดงผล (Display Zone) อย่างชัดเจนที่สุด เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ โดยที่ปุ่มควบคุมต่างๆ จะอยู่ในระยะที่ผู้ขับขี่นั้นสามารถควบคุมและสั่งการได้โดยสะดวกและไม่จำเป็นต้องปรับเลื่อนสายตามากเกินจำเป็น ในการดูข้อมูลต่างๆ บน จอแสดงผลและสั่งการ แบบ EMV ขนาด 12.3 นิ้ว (World’s First Technology) ที่กว้างที่สุดในรถระดับเดียวกัน

ใหม่ล่าสุดกับ ไฟเรืองแสง White LED Ambient Light ภายในห้องโดยสาร (Lexus’s First Technology) เพิ่มความหรูหรา สะดวกสบายในยามค่ำคืน เมื่อก้าวเข้าสู่ตัวรถ ช่วยเพิ่มความชัดเจนในการใช้งานปุ่มสวิทช์ต่างๆ ที่บริเวณแผงประตู คันเกียร์ และปุ่มปรับโหมดการขับขี่ ใหม่ด้วยระบบปรับอากาศแบบ S-Flow ที่ควบคุมระดับลมแอร์ให้เหมาะสม กับจำนวนผู้โดยสาร เพื่อลดการใช้พลังงาน พร้อมด้วยระบบปรับสภาพอากาศแบบ nano-e ที่ช่วยปรับความสมดุลของอากาศ
ด้วยการปล่อยประจุลบของน้ำ ในระดับนาโนเมตร ซึ่งช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง และยังดักจับอนุภาคของ แบคทีเรีย และไวรัส อันป็นต้นเหตุของ กลิ่นอับชื้นภายในห้องโดยสาร

เครื่องยนต์ของรุ่น GS350
รหัส 2GR-FSE 3.5L V6 DOHC 24 วาล์ว Dual VVT-i
ความจุกระบอกสูบ 3,460 ซีซี 
กำลังสูงสุด 312 แรงม้าที่ 6400 รอบต่อนาที 
แรงบิดสูงสุด377 นิวตันเมตร ที่ 4800 รอบต่อนาที 
ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 5
       
เครื่องยนต์ของรุ่น GS250
รหัส 4GR-FSE 2.5L V6 DOHC 24 วาล์ว Dual VVT-i 
ความจุกระบอกสูบ2,500 ซีซี 
กำลังสูงสุด 207 แรงม้าที่ 6400 รอบต่อนาที 
แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 4800 รอบต่อนาที 
มาตรฐานไอเสีย ยูโร 5
   
ระบบช่วงล่างด้านหน้าและหลังใหม่หมด รวมถึงโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น 14% เพื่อตอบสนองการขับขี่ในทุกๆ รูปแบบ เลือกใช้วัสดุอย่างดีเช่น อลูมิเนียมอัลลอย เพื่อช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มความนุ่มนวล และยังลดความแข็งกระด้าง พร้อมทั้งออกแบบจุดยึดต่อใหม่ 
ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการควบคุม และเพิ่มสมรรถนะการทรงตัวที่ดีขึ้น ตอบสนองทุกความรู้สึกในการขับขี่ โดยการเพิ่มระยะของมุมแคสเตอร์ของระบบช่วงล่างใหม่ เพื่อเพิ่มสรรถนะการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้น

ระบบช่วงล่างด้านหลัง เลือกใช้วัสดุที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบา เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการทรงตัวที่ดีที่สุด รวมถึงการออกแบบให้สปริงและโช๊คอัพนั้นแยกออกจากกัน ทำให้มีขนาดกะทัดรัด เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายให้กว้างขางมากยิ่งขึ้น
       
นอกจากนี้ยังปลุกอารมณ์สปอร์ตด้วยด้วยตัวกำเนิดเสียงเครื่องยนต์ (Engine / Muffler Sound Generator) ให้เสียงทุ้มหนักแน่น ทั้งในรอบเครื่องต่ำ กับเสียงแผดคำราม ในรอบเครื่องสูง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย Paddle Shift พร้อม D-control รวมถึง LDH Lexus Dynamic Handling system ระบบการบังคับเลี้ยว 4 ล้อ ผ่านชุดพวงมาลัยแปรผันอัตราทด (VGRS) สำหรับควบคุมล้อหน้า และ ชุดบังคับเลี้ยวล้อหลัง DRS (Dynamic Rear Steering) สำหรับควบคุมล้อหลัง ทำให้การควบคุมล้อเป็นไปอย่างแม่นยำที่ความเร็วสูง อีกทั้งความคล่องตัวในความเร็วต่ำ 

 ราคาเลกซัส จีเอส

GS250 รุ่น Luxury        4,590,000
GS250 รุ่น F-SPORT พร้อม มูนรูฟ 4,990,000
GS250 รุ่น Premium        5,090,000
GS350 รุ่น F-SPORT พร้อม มูนรูฟ 6,690,000
GS450h รุ่น Premium พร้อม มูนรูฟ 7,790,000

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น